คีแรน ทริปเปียร์ ชื่อเต็มว่า คีแรน จอห์น ทริปเปียร์ แบ็คขวาเท้าชั่งทองสังกัด นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด ในปัจจุบัน เกิดเมื่อวันที่ 19 กันยายน 1990 ที่เมืองบิวรี่ ประเทศอังกฤษ จนกระทั่งอายุ 9 ขวบ ได้เข้าสู่เส้นทางการเล่นฟุตบอลในระดับสโมสรเยาวชนให้กับ สโมสรแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ปี 1999 ต่อมาในปี 2009 เขามีโอกาสได้เข้าไปอยู่ในอะคาเดมี่ของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ นั้นคือใบเบิกทางของเส้นทางฟุตบอล ที่เจ้าตัวรับใช้ทีมเยาวชนของเรือใบสีฟ้า จนกระทั่งได้สัญญาอาชีพเต็มตัวฉบับแรกในปี 2009 หรือในวัย 19 ปี นั่นเอง แต่ในฤดูกาลนั้นในทีมมีนักเตะเล่นในตำแหน่งแบ็คขวาอยู่แล้ว จึงไม่มีโอกาสได้ลงเล่นเป็นตัวจริง จึงถูกส่งตัวไปเล่นกับทีม บาร์สลีย์ ในเดอะแชมเปี้ยนชิพ แบบยืมตัว
โดยในซีซั่นแรก เขาก็ยังไม่สามารถลงสนามได้เต็มที่เนื่องด้วยปัญหาอาการบาดเจ็บ ทำให้ขอพิสูจน์ตัวเอง โดยตลอด 3 ซีซั่นในลีกรอง เขาได้ลงเล่นแต่ละฤดูกาลเกิน 40 นัด ก่อนจะทำผลงานชิ้นโบว์แดงพาทีมเลื่อนขึ้นสู่พรีเมียร์ลีก ในฤดูกาล 2013-2014 ด้วยตำแหน่งรองแชมป์เดอะแชมเปี้ยนชิพ
หลังจากที่ได้ขึ้นมาเล่นบนลีกสูงสุดได้เป็นปีแรก ของฤดูกาล 2014-2015 ในตอนนั้นเขามีอายุ 24 ปี ยังคงได้รับความไว้วางใจให้เป็นตัวหลักของทีม ด้วยการลงเล่นไปถึง 38 นัด ให้กับเบิร์นลี่ย์ แม้ท้ายสุดแล้ว เบิร์นลี่ย์ จะต้องตกชั้นกลับไปอีกครั้ง ในฐานะรองบ๊วย แต่ตัวของ ทริปเปียร์ ไม่กลับไปกลับต้นสังกัดด้วย ด้วยผลงานที่โดนใจ ทำให้ สเปอร์ส แสดงความสนใจและลงทุน ควักเงิน 3.5 ล้านปอนด์ เพื่อดึงตัวมาร่วมทีมทันที ส่งผลให้เขายุติเส้นทางกับเบิร์นลี่ย์ไว้ 4 ฤดูกาล
ทริปเปียร์ ในวัย 25 ปี มาอยู่กับสเปอร์ส แต่ก็ยังไม่มีโอกาสได้ลงเล่นมากเท่าไหร่ เพราะยังมี ไคล์ วอล์คเกอร์ ที่ยืนเป็นตัวหลังในตำแหน่งแบ็คขวาก่อนแล้ว แต่เขาก็มีโอกาสได้ลงในช่วงท้ายเกม และก็ทำประโยชน์ให้ทีมได้จากลูกฟริคิกและลูกตั้งเตะต่าง จนมาถึงซัมเมอร์ในปี 2017 โอกาสของ ทริปเปียร์ ที่จะได้ยืนตำแหน่งตัวจริงก็มาถึง เมื่อง สเปอร์ส ยอมขาย วอล์คเกอร์ ให้กับ แมนฯซิตี้ ด้วยค่าตัวกว่า 50 ล้านปอนด์ เพื่อหารายได้ในการปลดหนี้สร้างสนาม
กระทั่งมาถึงในปี 2018-2019 ทริปเปียร์โชว์ฟอร์มร้อนแรง ช่วยทีมผ่านเข้าไปถึงรองชิงชนะเลิกยูฟ่า แชมเปี้ยนลีก แต่ก็แพ้ให้กับ ลิเวอร์พูล 0-2 อย่างน่าเสียดาย ด้วยฟอร์มการเล่นที่เฉียบคม ทำให้เขาได้ไปลุยฟุตบอลโลก 2018 กับทีมชาติอังกฤษ ซึ่งก็คือทัวร์นาเมนต์ใหญ่นานาชาติครั้งแรก พร้อมกับสร้างผลงานด้วยการซัดฟรีคิกในฟุตบอลโลก ที่รัสเซีย ใส่ทีมชาติโครเอเชียในรอบน็อคเอาท์ได้อีกด้วย
หลังจบฤดูกาล 2019 เดินทางออกจาก สเปอร์ส เมื่อ แอตเลติโก มาดริด จากลา ลีกา สเปน ตัดสินใจทุ่มเงินกว่า 20 ล้านปอนด์ ด้วยสัญญา 3 ปี และได้กลายเป็นตัวหลักของตราหมี และพาทีมประกาศศักดาคว้าแชมป์ ลาลีกา ในซีซั่น 2020-2021 แบบหักปากกาเซียนเลยทีเดียว
การใช้ชีวิตที่สเปนของ ทริปเปียร์ ถือว่าเป็นไปได้สวย แต่ต้องจบและอำลา ตราหมี ด้วยข้อตกลงฉบับใหม่ที่ไม่สามารถให้ได้ จนใจที่สุด ทีมเศรษฐีใหม่ ที่เข้ามาซื้อนิวคาสเซิล ทีมท้ายตาราง พรีเมียร์กลีก อังกฤษ ก็ขอซื้อตัว มาร่วมทีมในเดือน ม.ค. 2022 ที่ผ่านมา ด้วยค่าตัว 12 ล้านปอนด์(ประมาณ 550 ล้านบาท)ด้วยสัญญา สองปีครึ่ง พร้อมออปชั่นต่อเพิ่ม การเขามาของเขาเพื่อช่วยให้เกมรับเหนียวขึ้นและช่วยให้ทีมหนีจากการตกชั้น มันคืองานหนักที่ท้าทายสำหรับเขา
แฟนๆ สาลิกาดง ไม่ผิดหวัง เมื่อ ทริปเปียร์ สามารถประตูแรกได้ ในนัดที่ชนะเอฟเวอร์ตัน 3-1 ในเกมพรีเมียร์ลีก ก่อนที่สุดสัปดาห์ที่ผ่านมาจะซัดใส่ แอสตัน วิลล่า เป็นประตูชัย 1-0 และอีกยังชนะรวดอีก3เกม ทำให้ สาลิกาดง ไม่แพ้ใคร 5 นัดติดต่อกัน ดันตัวเองหนีโซนตกชั้น มีคะแนนเหนือ นอริช ซิตี้ นับเป็นการพลิกชะตาของทีมแบบสุดๆ เมื่อได้ ทริปเปียร์ มายืนเป็นแบ็คขวา ตัวความหวังของทีม เพราะก่อนหน้านั้น พวกเขายังอยู่ท้ายตาราง ยังสะกดคำว่าชนะไม่เป็นเลย สถานะของทีมกำลังไปได้สวย ก็เกิดเรื่องเศร้าขึ้นเมื่อ ทริปเปียร์ ตัวความหวังของทีม โชคร้ายได้รับบาดเจ็บกระดูกเท้าแตกจากนัดชนะวิลล่า ทำเข้ารับการผ่าตัด และมีรายงานว่าจะต้องพักอีกยาว อย่างน้อยๆสองเดือนเลยทีเดียว
แฟนๆ สาลิดง คงต้องติดตามกันต่อไปว่าตัวความหวังของทีม จะกลับมาช่วยนิวคาสเซิลในช่วงท้ายฤดูกาลได้หรือไม่ และทัพสาลิกาดจะรอดพ้นจากการตกชั้นหรือไม่
สำหรับผลงานในนามทีมชาติอังกฤษ เขาติดทีมชุดใหญ่ตั้งแต่ 2017 จนถึงปัจจุบัน คว้าอันดับ 4 ฟุตบอลโลก 2018 และรองแชมป์ฟุตบอล ยูโร 2020 ลงเล่นทั้งสิ้น 35 นัด ยิงไป 1 ประตู